ฉลองความสำเร็จครบ 40 ปี รถกระบะมิตซูบิชิ

Triton

ในปี พ.ศ.2521 เป็นยุคแห่งการเปลี่ยนแปลง อุตสาหกรรมวิดีโอเกมได้ถือกำเนิดขึ้น เครือข่ายโทรศัพท์มือถือกำลังถูกพัฒนาขึ้นในประเทศญี่ปุ่น และซุปเปอร์แมนเริ่มเป็นที่โด่งดังในโลกภาพยนตร์

  ในช่วงเวลาเดียวกันนี้รถกระบะมิตซูบิชิขนาดหนึ่งตันได้ถูกเผยโฉมขึ้นเป็นครั้งแรก และในอีกสี่ทศวรรษต่อมารถรุ่นดังกล่าวได้กลายเป็นยานพาหนะสำหรับผู้คนทั่วโลกมากกว่า 4.7 ล้านคน

  รถกระบะมิตซูบิชิโดดเด่นด้วยความสามารถในการเคลื่อนบนทุกสภาพถนนและภูมิประเทศ ด้วยการพัฒนาและออกแบบเพื่อมุ่งตอบสนองทุกความปรารถนาของลูกค้าผู้ชื่นชอบรถกระบะ ทั้งในด้านความแข็งแกร่ง ทนทาน และการบรรทุกสัมภาระ รวมถึงความอเนกประสงค์และความสะดวกสบายในการโดยสารที่ไม่ต่างไปจากรถยนต์นั่งแบบซีดาน

  รถกระบะมิตซูบิชิรุ่นแรกเผยโฉมในนาม ฟอร์เต้ (FORTE) หรือ แอล 200 (L200) ในบางประเทศที่ยังถูกใช้งานจนถึงปัจจุบัน โดยรถกระบะ มิตซูบิชิ ฟอร์เต้ ได้รับการพัฒนาให้แข็งแกร่ง ทนทานต่องานบรรทุกทั้งผู้โดยสารและสัมภาระ

  รถกระบะ มิตซูบิชิ ฟอร์เต้ ขนาดหนึ่งตัน ขับขี่ง่าย สมรรถนะแกร่ง ทนทานกับการใช้งานบรรทุกสัมภาระ จึงได้รับความนิยมไปทั่วโลกในเวลาไม่นาน ทั้งในประเทศที่มีสภาพภูมิอากาศแบบหนาวจัดและแบบทะเลทรายที่ร้อนระอุ

   

  กระนั้น มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ยังคงมุ่งมั่นพัฒนารถกระบะให้แก่ลูกค้า เพื่อให้สามารถฝ่าฟันทุกอุปสรรคและไปได้ไกลกว่าเดิม ด้วยการคิดค้นระบบขับเคลื่อนสี่ล้อระดับตำนานมาใช้ในรถกระบะ มิตซูบิชิ ฟอร์เต้ รุ่นปี พ.ศ. 2523 ซึ่งต่อมาได้กลายต้นแบบของยนตรกรรมขับเคลื่อนสี่ล้อยุคใหม่ของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ได้แก่ มิตซูบิชิ ปาเจโร หรือ มอนเทโร และ มิตซูบิชิ เดลิกา

   

  ในเวลาต่อมา รถกระบะมิตซูบิชิถูกส่งไปจำหน่ายในอีกหลายประเทศภายใต้ชื่อ ไทรทัน ซึ่งประสบความสำเร็จและได้กลายเป็นหนึ่งในแรงขับเคลื่อนธุรกิจที่สำคัญของ

มิตซูบิชิ มอเตอร์ส อีกด้วย

   

  ทั้งนี้แพลตฟอร์มของ มิตซูบิชิ ไทรทัน เจอเนอเรชั่นแรก และเจนเนอเรชั่นที่สอง ได้รับการพัฒนาขึ้นที่ศูนย์การผลิตยานยนต์ของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ที่เขตโอเอะ เมืองนาโกย่า และต่อมา มิตซูบิชิ ไทรทัน เจอเนอเรชั่นที่สามในปี พ.ศ. 2538 ซึ่งถูกผลิตขึ้นและส่งออกไปยังตลาดทั่วโลกจากศูนย์การผลิตยานยนต์ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส แหลมฉบัง ประเทศไทย และปัจจุบันยังเป็นศูนย์การผลิตยานยนต์ที่ใหญ่ที่สุดของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ด้วยจำนวนการผลิตประมาณ 400,000 คัน

  โดยทางเราจะมาร่วมรำลึกย้อนดูถึงการเดินทางของรถกระบะมิตซูบิชิจากรุ่นสู่รุ่น ตั้งแต่ ฟอร์เต้ สู่ ไทรทัน และแอล 200 ซึ่งรถกระบะมิตซูบิชิพร้อมแล้วที่สานต่อความสำเร็จในอนาคต

     เจนเนอเรชั่นที่ 1

     กันยายน พ.ศ. 2521

     ฟอร์เต้ (FORTE) รถกระบะขนาดหนึ่งตันเผยโฉมในประเทศญี่ปุ่นและส่งออกภายใต้ชื่อ รถกระบะมิตซูบิชิ (MITSUBISHI TRUCK) และแอล 200 (L200) โดยเริ่มทำการส่งออกไปยังอเมริกาเหนือในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2521

มีจำหน่ายเฉพาะรุ่นซิงเกิ้ลแค็บ โดยมีเครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.0 ลิตร และเครื่อยนต์ขนาด 2.6 ลิตร ให้เลือกสำหรับตลาดอเมริกาเหนือ ขณะที่เครื่องยนต์ขนาด 1.6 ลิตร พัฒนาขึ้นสำหรับตลาดประเทศญี่ปุ่นและภูมิภาคอื่น ๆ ทั้งนี้ เครื่อยนต์ดีเซลขนาด 2.3 ลิตร ก็มีให้เลือกสำหรับตลาดส่งออกโดยทั่วไป

  ตุลาคม พ.ศ. 2523

     เปิดตัวพร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบพาร์ทไทม์ครั้้งแรก (Part-time 4WD System)

Part-time 4WD System truck

เจนเนอเรชั่นที่ 2

     มีนาคม พ.ศ. 2529

     รถกระบะมิตซูบิชิได้รับการปรับโฉมอย่างเต็มรูปแบบและครบครันด้วยรุ่นซิงเกิ้ลแค็บ คลับแค็บ และดับเบิ้ลแค็บ ด้วยสไตล์ตัวถังทั้งแบบสั้นและแบบยาวทำให้รุ่นซิงเกิ้ลแค็บ พร้อมระบะการขับเคลื่อนทั้งแบบสองล้อและสี่ล้อ มีให้เลือกทั้งเครื่อยนต์เบนซินขนาด 2.0 ลิตร และ 2.6 ลิตรรวมถึงเครื่องยนต์ดีเซลขนาด 2.5 ลิตร (เพิ่มเติมจากเครื่องยนต์ดีเซลขนาด 2.3 ลิตร)

     พฤษภาคม พ.ศ. 2534

 สตราด้า (STRADA) เปิดตัวครั้งแรกที่ประเทศญี่ปุ่น (มีเฉพาะรุ่นดับเบิ้ลแค็บ)

STRADA

  เจนเนอเรชั่นที่ 3

  พฤศจิกายน พ.ศ. 2538

   รถกระบะมิตซูบิชิรุ่น แอล 200 สตราด้า ใหม่ (L200 STRADA) เปิดตัวในประเทศไทยเป็นครั้งแรก  ผลิตและส่งออกจากศูนย์การผลิตยานยนต์แหลมฉบัง ประเทศไทย  มีให้เลือกในรุ่น ซิงเกิ้ลแค็บ และคลับแค็บ ส่วนรุ่นดับเบิ้ลแค็บได้รับการผลิตขึ้นสำหรับการส่งออก ทั้งนี้ แอล 200 สตราด้า ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ดีเซลขนาด 2.5 ลิตร และ 2.8 ลิตร พร้อมนวัตกรรมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อเทคโนโลยี “Easy Select 4WD”

เจนเนอเรชั่นที่ 4

เจนเนอเรชั่นที่ 4

  สิงหาคม พ.ศ. 2548

รถกระบะมิตซูบิชิเผยโฉมในชื่อ ไทรทัน (TRITON) ในประเทศไทยเป็นครั้งแรก ครบครันทั้งรุ่น ซิงเกิ้ลแค็บ คลับแค็บ และดับเบิ้ลแค็บ ด้วยเครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรลที่พัฒนาขึ้นใหม่ขนาด 2.5 ลิตร และ 3.2 ลิตร มีให้เลือกทั้งระบบขับเคลื่อนแบบสองล้อและสี่ล้อแบบ “Easy Select 4WD” และ “Super Select 4WD”

Easy Select 4WD Super Select 4W

เจนเนอเรชั่นที่ 5

  พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

รถกระบะมิตซูบิชิเจนเนอเรชั่นที่ 5 เปิดตัวในประเทศไทยเป็นแห่งแรกก่อนจะตามมาด้วยการเปิดตัวในประเทศอื่น ๆ ครบครันทั้งรุ่น ซิงเกิ้ลแค็บ คลับแค็บ และดับเบิ้ลแค็บ มาพร้อมนวัตกรรมเครื่องยนต์ MIVEC เทอร์โบดีเซลขนาด 2.4 ลิตร เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบขนาด 2.5 ลิตร และเครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.4 ลิตร มีให้เลือกทั้งระบบขับเคลื่อนแบบสองล้อและสี่ล้อพร้อมเทคโนโลยี “Super Select 4WD-II” ควบคุมการเปลี่ยนโหมดขับขี่ด้วยระบบไฟฟ้า

นตรกรรมกระบะรุ่นใหม่

ยนตรกรรมกระบะรุ่นใหม่แห่งอนาคตพร้อมแล้วสำหรับการเผยโฉมเร็ว ๆ นี้